วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เอกสารการนำเข้าและส่งออก


วัตถุประสงค์ในการนำสินค้าเข้าและเอกสารที่ต้องใช้

การนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยทั่วไปมีวัตถุประสงค์ 3 ประการได้แก่
  1. นำเข้ามาเพื่อจำหน่ายหรือใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าเพื่อขายภายในประเทศ
  2. นำเข้ามาเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก
  3. นำเข้ามาชั่วคราวเพื่อซ่อมหรือเพื่อแสดงสินค้าความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้า

    การนำเข้าสินค้าในปัจจุบันมีการขยายตัวเติบโตมากขึ้นตามความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และการตกลงทางการค้าว่าด้วยเขตการค้าเสรี (FTA)โดยมีหลักการที่พยายามลดอุปสรรคทางการค้าลง โดยเฉพาะการลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีระหว่างคู่สัญญา  เนื่องจากขั้นตอนการนำเข้าสินค้ามีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และมีปัญหาทางด้านต้นทุนผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าสินค้าจะต้องทำความเข้าใจและศึกษาข้อปฏิบัติให้ถูกต้อง เพื่อให้การประกอบธุรกิจนำเข้าสินค้าเป็นไปอย่างสะดวกและได้รับผลสำเร็จคุ้มค่ากับความตั้งใจการลงทุน
    ขั้นตอนการนำเข้าสินค้าประกอบด้วย
    1. การจดทะเบียนพาณิชย์
    2.การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและการขอเลขและบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
    3. การหาสินค้าที่ต้องการจากประเทศต่างๆ
    4. การติดต่อ สั่งซื้อสินค้า
    5. การชำระเงินค่าสินค้าผ่านธนาคาร
    6. จัดเตรียมเอกสารเพื่อการนำเข้าสินค้า
    7. ติดต่อผ่านพิธีการศุลกากร (• การขึ้นทะเบียนระบบ Paperless • พิธีการประเมินอากร
    • การชำระค่าภาษีอากร • พิธีการตรวจปล่อยสินค้า)
    8. การส่งมอบสินค้า
    9. การกระจายสินค้า หรือการขายสินค้าออกสู่ตลาด
    อันดับแรกผู้นำเข้าควรที่จะศึกษา จัดทำแผนธุรกิจเพื่อเป็นแนวทางของการหาแหล่งผลิตสินค้า (ผู้ขายสินค้า) การผลิต การกระจายสินค้าเข้าสู่ตลาดเป้าหมาย   ลำดับถัดมาผู้ประกอบการนำเข้าสินค้าควรที่จะต้องศึกษา เกี่ยวกับระเบียบพิธีการนำเข้าสินค้าของกรมศุลกากร   ที่ว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีอากรสำหรับสินค้าที่นำเข้า สินค้าเป็นสินค้าต้องห้ามหรือสินค้าต้องกำกัด (สินค้าควบคุมต้องขออนุญาตนำเข้า) การขนส่งสินค้า สิทธิประโยชน์ตามความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) การประกันภัยสินค้า การชำระเงินค่าสินค้าผ่านธนาคาร
    การจัดเตรียมเอกสารเพื่อการนำเข้าสินค้า
    เอกสารประกอบตามขั้นตอนพิธีการศุลกากรในการนำเข้าสินค้ามีดังนี้  บัญชีราคาสินค้า (Invoice) 
    บัญชีรายละเอียดบรรจุหีบห่อ (Packing List)  ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading or Air Waybill)  ใบแจ้งยอด
    เบี้ยประกัน (Insurance Premium Invoice) ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตสำหรับสินค้าควบคุมการนำเข้า
    ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) กรณีใช้สิทธิลดอัตราอากร เอกสารอื่น ๆ เช่น เอกสาร
    แสดงส่วนผสม คุณลักษณะและการใช้งานของสินค้า  Material Safety Data Sheet, Catalog เป็นต้น
    ขั้นตอนถัดไปคือการจัดทำใบขนสินค้าขาเข้า ทำการตรวจสอบประเภทพิกัด อัตราอากรและสิทธิประโยชน์
    ของการลดหย่อนหรือยกเว้นอากรตามความตกลงเขตการค้าเสรี และได้ชำระอากรแล้วก็สามารถนำเอกสาร
    ใบขนสินค้าขาเข้าพร้อมใบเสร็จเสียภาษีอากร เอกสาร Delivery Order (D/O)ไปดำเนินการตรวจปล่อย
    สินค้าในท่าเรือและขนถ่ายสินค้าี่นำเข้ามาที่โกดังหรือโรงงาน หรือบริษัทถือเป็นการสิ้นสุดการนำเข้าสินค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น